1.ผ้าฝ้าย: ผ้าฝ้ายระบายอากาศได้ดี นุ่ม และสวมใส่สบาย เป็นผ้าอเนกประสงค์ที่ใช้ได้ทั้งเสื้อเชิ้ตลำลองและเสื้อเชิ้ตทางการ ผลิตมาจากเส้นใยฝ้าย (Cotton) ซึ่งได้มาจากการนำเส้นใยของปุยฝ้าย มาปั่นจนเกิดเป็นเส้นด้าย แล้วจึงนำมาถักทอได้เป็นผืนผ้า โดยลักษณะของผ้าคอตตอน คือ จะมีความนุ่ม ไม่กระด้าง สามารถระบายอากาศได้ดีเยี่ยม และเมื่อนำมาทักถอเป็นผืนผ้า จะได้ผ้าที่แข็งแรง ยิ่งทอหนา แน่น ก็จะยิ่งทนทาน สามารถซึมซับ และดูดความชื้นได้ดี เหมาะสำหรับทำเสื้อยืด ผ้าเช็ดตัว เป็นต้น
2.ผ้าลินิน: ผ้าลินินมีน้ำหนักเบาและระบายอากาศได้ดี จึงเหมาะสำหรับสภาพอากาศที่ร้อนขึ้น มีพื้นผิวเล็กน้อยและให้ลุคลำลองสบายๆ กับเสื้อเชิ้ต ผลิตมาจากเส้นใยของพืชชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า “แฟลกซ์” (Flax) ซึ่งเป็นเส้นใยที่ทนทานมาก และมีความเหนียว นอกจากนี้ผ้าลินินยังสามารถระบายความร้อนได้ดี แห้งง่าย ไม่เก็บกลิ่นหรือความชื้นเอาไว้นาน มีคุณสมับติที่คล้ายกับผ้าฝ้ายหรือผ้าคอตตอน แต่ผ้าลินินมีความทนทานมากกว่า เนื่องจากมีเส้นใยที่เหนียวกว่า อีกทั้งยังดูดซับน้ำได้ดีกว่า ทำให้เวลาเราสวมใส่แล้วรู้สึกสบาย
3.โพลีเอสเตอร์: ผ้าโพลีเอสเตอร์มีความทนทานและทนทานต่อรอยยับ จึงเป็นตัวเลือกที่ต้องดูแลรักษาน้อย มักใช้ร่วมกับผ้าชนิดอื่นเพื่อเพิ่มการระบายอากาศและความสบาย
4.ผ้าไหม: ผ้าไหมมีความรู้สึกหรูหราและผ้าม่านอย่างสวยงาม มักใช้กับเสื้อเชิ้ตทางการหรือโอกาสพิเศษเนื่องจากมีรูปลักษณ์ที่หรูหรา ผลิตจากเส้นใยของรังไหม เนื้อผ้าเป็นมันวาว สวยงามมาก แต่เนื้อผ้าไม่ค่อยทิ้งตัว เย็บจีบคงทน แต่ยับง่าย และเมื่อสวมใส่ในอากาศร้อนจะรู้สึกเย็นสบาย และอบอุ่นเมื่อสวมใส่ในฤดูหนาว ซึ่งผ้าไหม มักนิยมนำไปตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าผ้าสำหรับไปงาน หรือตัดเป็นเครื่องแต่งกายประจำชาติ ผ้าพันคอ ผ้าเช็ดหน้า และริบบิ้น
5.ผ้าแชมเบรย์: ผ้าแชมเบรย์มีลักษณะคล้ายกับผ้าเดนิม แต่มีน้ำหนักเบากว่า มีเนื้อผ้าทอและมักใช้กับเชิ้ตลำลอง
6.ผ้าสักหลาด: ผ้าสักหลาดมีความนุ่มและสวมใส่สบาย จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับเสื้อเชิ้ตลำลองและอากาศหนาว โดยทั่วไปจะทำจากผ้าฝ้ายหรือขนสัตว์